นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งเร่งกู้เรือเฟอร์รี่ หลังเกิดเหตุตัวเรือกระแทกท่าเทียบเรือ จนตัวเรือทะลุน้ำเข้าเรือจมตั้งแท่น คาดการกู้เรือจะแล้วเสร็จในอีก 2 วัน 

 เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (16 เม.ย. 66 )นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เดินทางลงพื้นที่อำเภอดอนสัก หลังได้รับรายงานอุบัติเหตุคลื่นซัดเรือเฟอรี่จมที่ท่าเรือดอนสัก ด้วยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ได้รายงานมายังนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า เกิดเหตุเรือ โดยสารข้ามฟากระหว่างอำเภอดอนสักไปยังอำเภอเกาะสมุย ของบริษัทราชาเฟอรี่ จมที่หน้าท่าเรือ แบบตะแคงข้าง กราบขวาของเรือ โดยเรือลำดังกล่าว ชื่อ ราชา 10 หมายเลขทะเบียนเรือ 590002932 เป็นประเภทเรือ เรือเดินทะเลเฉพาะเขต ใช้ บรรทุกคนโดยสารและยานพาหนะ ขนาด 2005 ตันกรอส ขณะเกิดเหตุคลื่นลมแรงคาดว่าถูกคลื่นซัดเรือชนกับของแข็งใต้น้ำ หน้าท่าเรือโดยขณะนั้นระดับน้ำหน้าท่าลึกประมาณ 5-6 เมตร  ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเรือจึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด


          
นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุทางคนขับเรือได้นำเรือเข้าเทียบท่าเพื่อเตรียมที่จะรับส่งผู้โดยสารและรถขนส่งเพื่อที่จะไปเกาะสมุย ช่วงนั้นเกิดลมกระโชกแรง เรือโคลง ไม่สามารถประคองเรือได้ ทำให้เรือตะแคงตามภาพที่เห็น ทางคนขับเรือจึงปิดวาร์วน้ำมันต่างๆป้องกันไม่ให้น้ำมันรั่วไหล และประสานทาง ปภ.เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุและเตรียมกู้เรือรอการซ่อมต่อไป  โดยทางจังหวัดได้สั่งให้งดเดินเรือลำนี้ รวมทั้งสั่งให้มีการตรวจสอบเรือทุกลำของบริษัทราชาเฟอร์รี่เพื่อให้ผู้โดยสารและการขนส่งรถต่างๆไปยังเกาะสมุยปลอดภัยมากที่สุด.




    ล่าสุดวันนี้(17 เมษายน 2566 )เวลา 09.30 น. นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  มอบหมายให้นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดอำเภอดอนสัก ติดตามความคืบหน้าการกู้เรือดังกล่าว โดยทางท่าเรือราชาเฟอร์รี่ได้ดำเนินการกู้เรือตั้งแต่ วันที่ 16 เมษายน 2566 หลังจากเกิดเหตุก็เร่งดำเนินการล้อมบูมและปิดรอยรั่วที่สามารถดำเนินการ พร้อมปิดท่อทางน้ำมันในเรือทั้งหมดหากมีคราบน้ำมันหลงเหลือออกมาก็จะรีบใช้สารกำจัดคราบน้ำมันทันทีพร้อมมีทีมลาดตระเวณเผื่อมีคราบน้ำมันออกไป ขณะนี้เรือเริ่มตั้งตรงตะเคงเล็กน้อยเนื่องจากได้อุดรอยรั่วและเร่งสูบน้ำออก คาดว่าจะสามารถกู้เรือและย้ายออกจากท่าได้อีกประมาณ 2 วัน




ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ออกคำสั่งห้ามใช้เรือลำดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งมีคำสั่งห้ามใช้ท่าเรือจนกว่าจะกู้เรือสำเร็จและแก้ไขท่าเทียบเรือที่มีสภาพชำรุด ให้พร้อมใช้งานก่อนพร้อมทั้งให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสุราษฎร์ธานีกำกับดูแลการกู้เรืออาร์ 10 ของบริษัทราชาเฟอร์รี่อย่างใกล้ชิด 












ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกอดีตนายกเทศบาลสุราษฎร์ธานีพร้อมพวกรวม11คน