ทีเส็บกระตุ้นตลาดโดเมสติกไมซ์รับเปิดประเทศ
ชูเครื่องมือ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” และ “10 เส้นทางไมซ์สร้างสรรค์”
นายสุทธิพงษ์
คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีถือเป็นไมซ์ซิตี้ที่มีศักยภาพในการรองรับการจัดงานไมซ์จากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งด้านสถานที่จัดงาน การคมนาคม และสถานที่ท่องเที่ยวหลังการประชุม สัมมนา
มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “สมุย” และ "เกาะพะงัน"
ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางไมซ์จากทั่วโลก ซึ่งได้แวะมาเที่ยวเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ที่ทำให้รายได้จากกิจกรรมไมซ์และการท่องเที่ยวถดถอยเป็นอย่างมาก
ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของพวกเรา ตั้งแต่ระดับชุมชน ระดับท้องถิ่น
ไปจนถึงระดับประเทศ แต่ขณะนี้ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับโรคระบาดนี้ให้ได้
และดำเนินธุรกิจกันไปภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยทั้งนี้ การส่งเสริมให้จัดกิจกรรมไมซ์ขึ้นในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นการประชุม
สัมมนา กิจกรรมนอกสถานที่ขององค์กรต่างๆ
ถือเป็นเรื่องที่ควรส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือกันทุกภาคส่วน
เพราะเมื่อมีกิจกรรมเกิดขึ้น ทุกคนจะได้รับประโยชน์ไปด้วยกัน
นายพัฒนชัย
สิงหะวาระ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคใต้ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) กล่าวว่า จากการเริ่มดำเนินงานโครงการ “ประชุมเมืองไทย
ปลอดภัยกว่า” ในปี 2563 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจกว่า 237 ล้านบาท
โดยในปี 2564 ทีเส็บได้จัดสรรงบประมาณเพื่อให้การสนับสนุนจำนวน 20 ล้านบาท และพัฒนาระบบการขอรับการสนับสนุนให้เป็นรูปแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบผ่านแพลตฟอร์ม
ThaiMICEConnect.com
ซึ่งเป็น e-MICE Marketplace ที่สมัครเข้าใช้บริการได้ง่าย
ช่วยลดขั้นตอนขององค์กร ปัจจุบันมีผู้ขอรับการสนับสนุนและอนุมัติแล้วรวม
813
งาน (ข้อมูล ณ
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564) และแสดงความจำนงมากกว่า 1,000 งาน
ทีเส็บจึงวางแผนในการกระตุ้นการเดินทางของตลาดไมซ์ในประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาต่อยอดให้มีความยั่งยืน เพื่อลดความเสี่ยงในการพึ่งพาตลาดต่างประเทศเพียงอย่างเดียว
โดยเน้นการประชุมสัมมนาภาครัฐและเอกชนเป็นกลไกขับเคลื่อน พร้อมกับการสร้างงานและกระจายรายได้สู่ภูมิภาค
โดยเฉพาะขณะนี้ที่หลายๆ
เมืองมีนโยบายผ่อนคลายการจัดกิจกรรมรับนโยบายเปิดประเทศ แต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร
หรือ COVID Free
Setting ไม่ว่าจะเป็นการจัดประชุม
สัมมนา เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 22.00 น. การจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม
ไม่เกิน 500 คน ให้ผู้เข้าร่วมสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
จัดให้มีช่วงเวลาพักเพื่อการระบายอากาศของห้องประชุม จัดเตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด และเว้นระยะห่างไม่ให้แออัด
พร้อมทั้งดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติการจัดงานไมซ์อย่างเคร่งครัด”
นอกจากนี้ ล่าสุดทีเส็บได้มีเครื่องมือทางการตลาด
อย่างโครงการ “10 เส้นทาง ไมซ์สร้างสรรค์” ที่ร่วมมือกับกลุ่มบริษัท
DMC (Destination Management Company) ในการออกแบบเส้นทางเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ กระตุ้นและขับเคลื่อนองค์กรภาครัฐและเอกชนให้เกิดการจัดประชุมสัมมนาและจัดกิจกรรมทั่วประเทศภายใต้มาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
โดยสามารถคลิกขอใบเสนอราคาได้ง่าย ๆ ผ่านทาง www.thaimiceconnect.com เช่นเดียวกัน
คาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากการที่หลายจังหวัดเริ่มเปิดเมืองให้มีการจัดกิจกรรมได้
และประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง
โครงการ
“ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” เปิดให้ขอรับการสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 15
กันยายน ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าจะครบจำนวนเงินงบประมาณที่ให้การสนับสนุน โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณ 15,000 บาทสำหรับการจัดกิจกรรม 1 วัน
ไม่น้อยกว่า 6
ชั่วโมง และ 30,000 บาทสำหรับการจัดกิจกรรม 2 วัน 1 คืน
สำหรับการจัดกิจกรรมองค์กร ได้แก่ การประชุม การสัมมนา การอบรม
การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล กิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมศึกษาดูงาน หรือกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งในชุมชน โดยยื่นขอรับการสนับสนุนล่วงหน้า 9 วันก่อนเริ่มดำเนินกิจกรรม และจัดกิจกรรมให้เสร็จสิ้นภายในวันที่
31
ธันวาคม 2564 ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.thaimiceconnect.com,
Facebook : Thai MICE Connect หรือ Line : @thaimiceconnect และสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 0
2793 3456 วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30
– 17.30 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น