ศรชล.ปปง.สอบขยายเตรียมยึดทรัพย์เพิ่มอีกหลายล้าน
ชุดเฉพาะกิจ กองสอบสวนกลาง สสก.ศรชล.ร่วมกับ
ปปง. สอบสวนผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง เตรียมยึดทรัพย์เพิ่มเติมอีกหลายราย
ใน
๒๑ ม.ค.๖๔ พล.ร.ต.สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและกฎหมาย
ศรชล.(สสก.ศรชล.) สั่งการให้ น.อ.นิติรักข์
การดี หัวหน้าชุดเฉพาะกิจกองสอบสวนกลาง สสก.ศรชล.นำ ปปง.
สอบปากคำผู้ต้องหาและพยานเพิ่มเติมอีก ๘ ราย เตรียมยึดทรัพย์อีกหลายล้านบาท
จากการสอบสวนได้ความว่าผู้ต้องหาบางราย
ได้รับการข่าวลือจากผู้ไม่ประสงค์ดีว่า
“ไม่ให้รื้อถอนขนำและแนวคอกหอยเพราะทางราชการกำลังจะพิจารณาอนุญาตให้ผู้บุกรุกทำการเพาะเลี้ยงหอย”
ชุดเฉพาะกิจ กองสอบสวนกลางฯ ได้ตรวจสอบไปยัง กองกฎหมาย กรมประมงแล้ว ได้รับคำยืนยันจาก
นายเดชา ปรัชญารัตน์ ผู้อำนวยการ กองกฎหมายกรมประมง
ว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง กรมประมงซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย
ยังไม่มีนโยบายใดๆที่จะอนุญาตให้เพาะเลี้ยงหอยทะเลในพื้นที่นอกเขตที่ได้รับอนุญาตที่มีอยู่เดิม จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งรีบทำการรื้อถอน
ก่อนที่ ชุดเฉพาะกิจ กองสอบสวนกลางฯ
จะเข้าดำเนินการสืบสวนรวบรวมข้อมูลดำเนินคดีอาญาและส่งให้ ปปง.ทำการรื้อถอน
น.อ.นิติรักข์ ย้ำว่านอกจาก ปปง.ดำเนินการตรวจยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการเลี้ยงหอยแครงในพื้นที่ไม่อนุญาตแล้วผู้ประกอบการจะต้องถูกนำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่ง
นอกจากนั้นสรรพากรไล่บี้เก็บภาษีย้อนหลัง ส่วนพื้นที่อนุญาตให้มีการเลี้ยงหอยในหลายอำเภอนั้นผู้ประกอบการจะต้องรื้อถอน
ขนำ และคอกหอยออกจากทะเล ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยากใช้กฎหมายที่รุนแรง ดังนั้นในเบื้องต้นจึงขอให้ทางผู้ประกอบการร่วมมือกับทางราชการ
เพื่อไม่ให้มีการเดือดร้อนถึงขั้นหมดตัว แต่หากดื้อแพ่ง ทาง ศรชล.พร้อมใช้ยาแรงเข้าจัดการ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น