ผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงเถื่อน7รายกระอัก ปปง.รับเป็นคดีพิเศษแล้ว
ปปง.รับ 7 คดีเป็นคดีพิเศษตามกฎหมายฟอกเงินพร้อมเดินหน้าตรวจทรัพย์สินและเส้นทางการเงินของผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงเถื่อนในอ่าวบ้านดอน
คาดต้นเดือนหน้าทั้ง 7 คดีจะเรียบร้อย ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ ปปง.ระบุปัญหาอ่าวบ้านดอนเป็นปัญหาระดับประเทศมิใช่ปัญหาท้องถิ่นที่จะแก้ไขได้
และย้ำเป็นเรื่องน่าเศร้าที่วันเวลาชาวบ้านไม่สามารถเข้าถึงการแบ่งปันทรัพยากรธรรมชาติได้เลย
. วันนี้
(19 ม.ค.64) ความคืบหน้ากรณีศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือ
ศรชล.(ส่วนกลาง)ได้ยกทีมกว่า 100
นาย
ตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน
ณ วัดชลธาร ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการทวงคืนพื้นที่ทางทะเลนำกลับมาให้ประชาชนมีสิทธิใช้ร่วมกัน
จากผู้ประกอบการบุกรุกครอบปักไม้ไผ่กั้นเป็นคอกเลี้ยงหอยแครงพร้อมก่อสร้างขนำหรูกลางทะเลมูลค่ากว่า
3 ล้านบาท
โดยมีเป้าหมายเข้าตรวจสอบทรัพย์สินจำนวน
8 เป้าหมาย ในพื้นที่อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีและอำเภอพุนพิน เป้าหมายเป็นขนำสีแดงหรูที่ก่อสร้างด้วยมูลค่ากว่า
3 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทางผู้ประกอบการได้ดำเนินการรื้อถอนตัวอาคารออกไปแล้วกว่าร้อยละ
80 พร้อมปรับสภาพตัวขนำให้เล็กลงใช้เป็นที่เฝ้าหอยแครง
นาย ปิยะ ศรีวิกะ ผู้อำนวยการส่วนปฎิบัติการงานคดี 3
กองคดี 3 สำนักงาน ปปง. ได้กล่าวว่ากฎหมายฟอกเงินเป็นกฎหมายพิเศษสร้างขึ้นมาเพื่อตัดวงจรอาชญากรรม
สร้างขึ้นมาไม่ให้มีการใช้เงินจากการกระทำความผิด
จากความผิดมูลฐานจะกำหนดไว้ตามกฎหมายฟอกเงินมี 29 มูลฐานความผิด ในกรณีนี้เป็นการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติเพื่อเลี้ยงหอยแครงมันเข้าลักษณะแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า
ก็หมายความว่ากรณีนี้เป็นความผิดมูลฐานที่ 15 ซึ่ง ศรชล.และพนักงานสอบสวนตรวจเจอความผิดมูลฐาน
ก็รายงานไปที่สำนักงาน ปปง. ก็นำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการ ปปง. เพื่อขอมติว่า การกระทำเหล่านี้จะต้องถูกตรวจหรือไม่
ซึ่งทางคณะกรรมการได้ประชุมและมีความเห็นว่าพฤติการณ์มันเป็นการกระทำความผิดมูลฐานตามกฎหมาย
ปปง. จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ ตรวจเพื่อจะให้ดูว่าการกระทำความผิดเหล่านี้
มันทำให้เกิดทรัพย์สินงอกเงยขึ้นมาหรือไม่ ทรัพย์สินจากการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติเพื่อเลี้ยงหอย
และเงินที่ได้มาจากการขายหอยก็ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด
จะต้องตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบหากพบว่ามีพยานหลักฐานว่าเงินที่ได้มาจากการขายหอยแครงแล้วจะต้องถูกตรวจยึดอายัด
ดังนั้นจึงขอฝากเตือนถึงผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของคอกหอยว่า พฤติการณ์ที่มีการพบกระทำความผิด
ที่เข้าไปอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต
มันเป็นความผิดมูลฐานของกฎหมายฟอกเงินจะต้องถูกยึดอายัดทรัพย์สินและอาจโดนคดีอาญาไปพร้อมๆกัน
ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วทั้ง 7 รายจะดำเนินการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
บ่าวเปี๊ยก/รายงาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น