123HotNewsSuratthani

 ภานุ ส.ส.สุราษฎร์ ยื่นหนังสือรัฐมนตรียุติธรรม ย้ายเรือนจำกลางสุราษฎร์แออัดกลางเมืองไปอยู่ที่ใหม่ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ที่สัปปายะสภาสถาน อาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่อง การพิจารณาย้ายเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ตามที่ได้หารือไว้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่10 สมัยสามัญครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมี น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือดังกล่าว ทั้งนี้ นายภานุ ระบุว่า เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี สร้างเมื่อปี พ.ศ.2497 ปัจจุบันมีอายุถึง 68 ปี มีผู้ถูกคุมขังประมาณ 5,000 คนแออัดอย่างมาก ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ที่มีประชากร 132,040 คน อยู่ในเขตชุมชนเมืองและใกล้เคียงศูนย์ราชการจังหวัด โรงเรียนสุราษฎร์ธานี วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ซึ่งเรือนจำแห่งนี้มีแนวทางที่จะย้ายไปที่ตั้งแห่งใหม่ ณ เรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน หมู่ที่ 3 ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ ภายในปี พ.ศ.2566 ที่กว

  หญิงสาววัย 21 ปีคิดสั้นตัดสินปัญหาจบชีวิตด้วยการกระโดดสะพานศรีสุราษฎร์เมื่อคืนวันที่ 29 ที่ผ่าน ล่าสุดเช้าวันนี้ร่างลอยขึ้นเหนือน้ำที่บริเวณปากแม่น้ำตาปี ด้านพ่อ-แม่เห็นศพใจแตกสลาย ด้านพ่อเมืองคนดีรุดให้กำลังใจทุกฝ่ายพร้อมสั่งล้อมคอกป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นซ้ำซาก  จากกรณีเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เวลา 05.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนกระโดดสะพานศรีสุราษฎร์ ตำบลบางกุ้ง เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ฯ จึงเข้าตรวจพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาฯ ผลการตรวจทราบว่า  นางสาวธิดาพร แซ่อึ้ง บ้านเลขที่ 26/4 ม. 5 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้ขับ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน   1 กษ 1977 สุราษฎร์ธานี   มาจอดทิ้งไว้บนสะพานศรีสุราษฎร์ ฝั่งขาออกเมือง ตรวจสอบพบว่าที่ช่องเก็บของที่หัวรถพบกุญแจรถ กระเป๋าสตางค์   บัตรประชาชน   ใบแจ้งความโอนเงินผิดบัญชี   และสมุดคู่บัญชีธนาคาร   จึงคาดว่าจะกระโดดสะพานจริง   จึงได้ประสานกำลังกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบและค้นหามาทั้งวันแต่ไม่พบ ท่ามกลางบรรดาญาติๆท

 ผู้ว่าสุราษฎร์สั่งไล่ล่ามือมืดทิ้งเศษขวดเศษแก้วลงทะเลหวังครอบครองพื้นที่จับลูกหอยแครง ด้านชาวบ้านวันนี้ต้องหยุดจับลูกหอยหวั่นมือเท้าเลือดสาดอ่าวบ้านดอน ในขณะที่ ศรชล.จับตากลุ่มนายทุนขวางทางย้อนเก็บเอง พร้อมสืบตามจับฟ้องยึดทรัพย์ ซ้ำคดีเก่า  ความคืบหน้ากรณีชาวประมงพื้นบ้านที่ออกเก็บลูกหอยในอ่าวบ้านดอน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ร้องเรียน น.อ.วศากร สุนทรนันท์ รองผู้อำนวยการ ศรชล. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นำคณะเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ และรื้อถอนเสาไม้ไผ่ในเขตคอกหอยเดิมเพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะ ว่า ถูกมือมืดทิ้งเศษขวดแก้วลงในทะเลทำให้ชาวบ้านที่ลงเก็บลูกหอยถูกขวด แก้วบาดเท้าได้รับบาดเจ็บ เป็นการขัดขวางไม่ให้ชาวบ้านเข้าพื้นที่ ซึ่งนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งให้ ศรชล. จังหวัดสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งผู้บงการมาดำเนินคดีขั้นสูงสุดและ ใช้มาตรการยึดทรัพย์ด้วย นั้น เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่บริเวณอ่าวบ้านดอน ต.บางชนะ อ.เมืองสุราษฎร์ ธานี เจ้าหน้าที่ได้นำเรือออกลาดตระเวนบริเวณปากคลองฉนาก ไม่พบกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านนำเรือออกเก็บลูกหอยตามปกติ โดยหยุดพัก ชั่วคราว เนื่อ

 ยอดจองที่พักในโครงการ ‘สมุย พลัส โมเดล’ พุ่ง เปิดจอง 3 วัน ทะลุกว่า 950 รูมไนท์ หลังเปิดการบินเมื่อ 25 ส.ค ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการปลื้ม ขอรัฐบาลสานต่อโครงการ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยัน ‘สมุย พลัส โมเดล’ คือความหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ หวัง นทท.ในโครงการอยู่ภูเก็ต 7+7 จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของเกาะสมุย การเปิดโครงการ “สมุย พลัส โมเดล” กับเป้าหมายสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของหมู่เกาะทะเลใต้ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ตลอดจนพื้นที่ อื่นๆ โดยเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่เปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้คาดการณ์ไว้ว่าในช่วงเดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.-15 ส.ค.64 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเกาะสมุย ประมาณ 1,000 คน จะสร้างรายได้กว่า 180 ล้านบาท และหลังจากนั้นก็จะเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในไตรมาสที่ 4 ขอ

 ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวสมุยพลัสโมเดล ปลื้ม ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ มอบหนังสือรับรองมาตรฐาน สร้างความอุ่นใจแก่นักท่องเที่ยว       วันนี้(27 ส.ค.64)  ที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวโครงการสมุยพลัส โมเดล ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยจำนวน 22 ราย  จาก 40 กว่าราย  เข้ารับหนังสือรับรองมาตรฐานเรือหางยาวสำหรับรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว ตามเกาะแก่งต่างๆ  และสติกเกอร์เรือนำเที่ยว SAMUI+  PHA-NGAN  TAO  VERIFIED  TRANSPORT จากนายวิชวุทย์  จินโต  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ณ บริเวณท่าเรืออ่าวท้องกรูด อำเภอเกาะสมุย  เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวว่าเรือดังกล่าวมีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน  โดยมีนายอำเภอเกาะสมุย  นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย  เจ้าท่าภูมิภาคสาขาเกาะสมุย  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี  และผู้เกี่ยวข้อง  ร่วมแสดงความยินดีในการรับมอบหนังสือรับรองมาตรฐานและสติกเกอร์เรือนำเที่ยวในครั้งนี้ด้วย  โดยผู้ประกอบการเรือหางยาวนำเที่ยวรายหนึ่ง  กล่าวว่า  ตนเองรู้สึกดีใจและปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง  ที่ทางรัฐบาลและผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้ความสำคัญในส่วนนี้  โดยขอให้คำ

 ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซ้อมแผนป้องกันอุทกภัย Table Top Exercise : TTX ประจำปี 2564 ผ่านระบบ Zoom เน้น ทุกภาคส่วนให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ย้ำให้นำแนวทางไปการสรุปวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง เพื่อปรับปรุงการปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด วันนี้ 26 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายวิชวุทย์  จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดพร้อมร่วมฝึกศูนย์บัญชาการณ์เหตุจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 กรณีอุทกภัย ในรูปแบบการฝึกซ้อมบนโต๊ะ (Table Top Exercise : TTX) ผ่านการประชุมทางไกล ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายจำนง สวัสดิ์วงศ์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 19 อำเภอ ร่วมซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอุทกภัย นายวิชวุทย์  จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย คือ การเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดยการให้ความรู้ การเตรียมการ การศึกษาพื้นที่ การรักษาความสงบเรียบร้

 ผู้ว่าฯสุราษฎร์ รุดเยี่ยมให้กำลังใจผู้ฉีด”ซิโนฟาร์ม” งบ อบจ.สุราษฎร์ ล็อตแรก 12,000 คน เมื่อเวลา 08.15 น.วันที่ 18 สิงหาคม 2564 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  เดินทางไปยังหอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี  เข้าตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนทางเลือก “ ซิโนฟาร์ม “ เป็นวันแรกให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายล็อตแรก 12,000 คนที่ อบจ. สุราษฎร์ธานี ได้จัดซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 100,000 โดส เพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย ผู้ด้อยโอกาส เจ้าหน้าที่ส่วนหน้า ภาคประชาชนที่เป็นพ่อค้า แม่ค้า ครู นักเรียน ผู้สูงอายุ บุคลากรของ อบจ.สุราษฎร์ธานี รวม 50,000 คน โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และรศ.ดร.เจริญ นาคะสรรค์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ร่วมตรวจเยี่ยม สำหรับ วันแรกการฉีดวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม”ให้กับประชาชน จำนวน 12,000 คน ได้กระจายสถานที่ฉีด 4 จุด 1. โรงพยาบาลตาขุน อ.บ้านตาขุน จำนวน 547 คน 2. โรงพยาบาลกรุงเทพสมุย อ.เกาะสมุย จำนวน 112 คน 3. โรงพยาบาลท่าโรงช้าง

 ผู้ว่าฯสุราษฎร์ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม 5 แห่งพร้อมรับผู้ป่วย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ที่โรงพยาบาลสนามสุราษฎร์ธานี แห่งที่ 2 (สนามแข่งรถบริษัทสุราษฎร์ธานีมอเตอร์สปอร์ต) ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายแพทย์มนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี นายวิสูตร อินทรกำเนิด นายอำเภอ พุนพิน ลงพื้นที่ดูการเปิดใช้โรงพยาบาลสนามสุราษฎร์ธานี 2 ท่าโรงช้าง เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-2019) ที่เพิ่มขึ้นโดยใช้สนามแข่งรถเป็นโรงพยาบาล สนามโดยมี อบจ.สุราษฎร์ธานี สนับสนุนสามารถรับผู้ป่วย สีเขียวได้ 250 เตียง โดยมีผู้ป่วยเข้ารักษาแล้ว 50 ราย จากนั้น ไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามสุราษฎร์ธานีแห่งที่ 1  ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี มีผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารักษา จำนวน 259 ราย นายวิชวุทย์  จินโต  ผู้ว่าราชจังหวัดสุราษฎร์ธานี  กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีจำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลสนามมหาวิทย

 นายกเหล่ากาชาดสุราษฎร์ เยี่ยมปลอบขวัญมอบเงินช่วยสาวเคราะห์ร้าย ไฟไหม้บ้านกลางดึกวอดหมดทั้งหลัง เมื่อบ่ายวันที่ 13 สิงหาคม 2564 นางอุรสา จินโต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยรองนายก เหล่ากาชาดจังหวัด กรรมการฯ และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด  ได้ลงพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์  ไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว น.ส.บุญตรง ประกอบการ และครอบครัวทั้งหมด 3  คน โดยมีนายสมชาย เรืองจันทร์  นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ นายกเทศมนตรีตำบลช้างขวา กำนัน ต.ช้างขวา และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่วมด้วย   ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนที่ 12 สิงหาคม 2564 เวลา  02.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของ น.ส.บุญตรง บ้านเลขที่ 196/1 หมู่ที่ 8 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ ทรัพย์สินได้รับความเสียหายไหม้หมดทั้งหลัง แต่ไม่มีผู้ใดได้ รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุเกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจร ในการนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 10,000 บาท  เพื่อเป็นการ บรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น  ข่าว/บ่าวเปี๊ยก /////

ทีม กู้ชีพกู้ภัยเทศบาลท่าชนะ ร่วมกับเทศบาลท่าชนะ นำสิ่งของประกอบด้วย น้ำดื่ม และ ผลไม้ มอบให้กับ ทาง รพ.ท่าชนะ พร้อม ให้กำลังใจแก่บุคลากรทางแพทย์ หมอ พยาบาล ผช.พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกท่าน รวม ถึงผู้ป่วย  ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆท่าน  สู้ ๆ เราจะ ผ่านวิกฤต นี้ ไปด้วยกัน   เป็นวันดีๆที่มีเสมอในการปั่นน้ำใจแบ่งปั่นให้กับเจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาล ทุกคนทุกแผนก คนป่วย ญาติมา รับของ จากสำคัญ  นายก ณัฐธัญ รัศมี ท่าน รอง พงษ์ชัย คชสวัสดิ์ หัวหน้าสำนักปลัด ท่าน สยาม และ ทีมงาน กู้ชีพ กู้ภัย เทศบาลตำบลท่าชนะ นำโดย คุณ เสน่ห์  พี่หมู และ ทีมงาน ร่วมดำเนินการ ภาพข่าว/บ่าวหมู ท่าชนะ